EDITORIAL

PDPA ไทยยังสับสนอยู่ใช่ไหม? คู่มือสรุปใจความสำคัญที่ทุกธุรกิจต้องรู้

Yuvin Kim

August 29, 2025

EDITORIAL

PDPA ไทยยังสับสนอยู่ใช่ไหม? คู่มือสรุปใจความสำคัญที่ทุกธุรกิจต้องรู้

Yuvin Kim

August 29, 2025

พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA ได้มีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจและผู้ปฏิบัติงานหลายๆ ท่าน ข้อกำหนดต่างๆ ก็ยังคงดูซับซ้อนและน่าสับสนอยู่

"ธุรกิจของเราเข้าข่ายหรือไม่" "ต้องขอความยินยอมแบบไหน" "ถ้าไม่ทำตามจะเกิดอะไรขึ้น"

ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป! Walla ได้จัดทำคู่มือฉบับสรุปนี้ขึ้นมา เพื่อไขข้อข้องใจและอธิบายหลักการสำคัญของ PDPA ที่ทุกธุรกิจในประเทศไทยจำเป็นต้องรู้และนำไปปฏิบัติ เพื่อดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นใจและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า

1. PDPA คืออะไร? ทำไมจึงสำคัญ?

PDPA คือกฎหมายที่กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล ในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูล (เช่น ลูกค้า, พนักงาน) กฎหมายนี้ไม่ได้มีขึ้นเพื่อเป็นอุปสรรค แต่เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจในยุคดิจิทัล

2. ธุรกิจของคุณเข้าข่ายที่ต้องปฏิบัติตาม PDPA หรือไม่?

คำตอบคือ "ใช่" หากธุรกิจของคุณมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้:

  • มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของลูกค้า, พนักงาน, หรือบุคคลอื่นๆ

  • ธุรกิจของคุณตั้งอยู่ในประเทศไทย

  • ธุรกิจของคุณตั้งอยู่นอกประเทศไทย แต่มีการเสนอขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าในประเทศไทย หรือมีการเฝ้าติดตามพฤติกรรมของบุคคลในประเทศไทย (เช่น การใช้คุกกี้บนเว็บไซต์)

3. หลักการสำคัญที่ต้องจำให้ขึ้นใจ

  • การขอความยินยอม (Consent): ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลอย่างชัดแจ้งและแยกตามวัตถุประสงค์ก่อนหรือขณะเก็บรวบรวมข้อมูล

  • การแจ้งวัตถุประสงค์ (Purpose Limitation): ต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบว่าจะนำข้อมูลไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร และต้องใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้เท่านั้น

  • การเก็บข้อมูลเท่าที่จำเป็น (Data Minimization): ต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้

  • ความถูกต้องของข้อมูล (Accuracy): ต้องดูแลรักษาข้อมูลให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ

  • ความปลอดภัยของข้อมูล (Security): ต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึงหรือการรั่วไหลของข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต

4. สิ่งที่ธุรกิจของคุณต้องทำ (เช็คลิสต์เบื้องต้น)

  • จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice/Policy): จัดทำเอกสารที่แจ้งรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ชัดเจน

  • สร้างกระบวนการขอความยินยอม: ออกแบบฟอร์มหรือช่องทางในการขอความยินยอมจากลูกค้าให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

  • แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO): หากธุรกิจของคุณมีการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากหรือข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน อาจจำเป็นต้องแต่งตั้ง DPO

  • จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัย: ใช้มาตรการทางเทคนิค (เช่น การเข้ารหัส) และทางองค์กร (เช่น การกำหนดสิทธิ์การเข้าถึง) เพื่อปกป้องข้อมูล

  • เตรียมพร้อมรับมือเมื่อเกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล: จัดทำแผนรับมือและกระบวนการแจ้งเตือนเจ้าของข้อมูลและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) ภายใน 72 ชั่วโมง

บทสรุป: เปลี่ยนภาระให้เป็นความไว้วางใจ

การปฏิบัติตาม PDPA อาจดูเหมือนเป็นภาระ แต่แท้จริงแล้วคือโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าของคุณ การแสดงให้เห็นว่าธุรกิจของคุณใส่ใจและปกป้องข้อมูลของพวกเขาอย่างจริงจัง คือวิธีการสร้าง "ความไว้วางใจ" ที่ดีที่สุดในระยะยาว

Walla ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณรวบรวมข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและสอดคล้องกับข้อกำหนดของ PDPA เราจัดการความซับซ้อนทางเทคนิค เพื่อให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าได้อย่างเต็มที่

พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA ได้มีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจและผู้ปฏิบัติงานหลายๆ ท่าน ข้อกำหนดต่างๆ ก็ยังคงดูซับซ้อนและน่าสับสนอยู่

"ธุรกิจของเราเข้าข่ายหรือไม่" "ต้องขอความยินยอมแบบไหน" "ถ้าไม่ทำตามจะเกิดอะไรขึ้น"

ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป! Walla ได้จัดทำคู่มือฉบับสรุปนี้ขึ้นมา เพื่อไขข้อข้องใจและอธิบายหลักการสำคัญของ PDPA ที่ทุกธุรกิจในประเทศไทยจำเป็นต้องรู้และนำไปปฏิบัติ เพื่อดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นใจและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า

1. PDPA คืออะไร? ทำไมจึงสำคัญ?

PDPA คือกฎหมายที่กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล ในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูล (เช่น ลูกค้า, พนักงาน) กฎหมายนี้ไม่ได้มีขึ้นเพื่อเป็นอุปสรรค แต่เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจในยุคดิจิทัล

2. ธุรกิจของคุณเข้าข่ายที่ต้องปฏิบัติตาม PDPA หรือไม่?

คำตอบคือ "ใช่" หากธุรกิจของคุณมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้:

  • มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของลูกค้า, พนักงาน, หรือบุคคลอื่นๆ

  • ธุรกิจของคุณตั้งอยู่ในประเทศไทย

  • ธุรกิจของคุณตั้งอยู่นอกประเทศไทย แต่มีการเสนอขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าในประเทศไทย หรือมีการเฝ้าติดตามพฤติกรรมของบุคคลในประเทศไทย (เช่น การใช้คุกกี้บนเว็บไซต์)

3. หลักการสำคัญที่ต้องจำให้ขึ้นใจ

  • การขอความยินยอม (Consent): ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลอย่างชัดแจ้งและแยกตามวัตถุประสงค์ก่อนหรือขณะเก็บรวบรวมข้อมูล

  • การแจ้งวัตถุประสงค์ (Purpose Limitation): ต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบว่าจะนำข้อมูลไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร และต้องใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้เท่านั้น

  • การเก็บข้อมูลเท่าที่จำเป็น (Data Minimization): ต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้

  • ความถูกต้องของข้อมูล (Accuracy): ต้องดูแลรักษาข้อมูลให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ

  • ความปลอดภัยของข้อมูล (Security): ต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึงหรือการรั่วไหลของข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต

4. สิ่งที่ธุรกิจของคุณต้องทำ (เช็คลิสต์เบื้องต้น)

  • จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice/Policy): จัดทำเอกสารที่แจ้งรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ชัดเจน

  • สร้างกระบวนการขอความยินยอม: ออกแบบฟอร์มหรือช่องทางในการขอความยินยอมจากลูกค้าให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

  • แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO): หากธุรกิจของคุณมีการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากหรือข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน อาจจำเป็นต้องแต่งตั้ง DPO

  • จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัย: ใช้มาตรการทางเทคนิค (เช่น การเข้ารหัส) และทางองค์กร (เช่น การกำหนดสิทธิ์การเข้าถึง) เพื่อปกป้องข้อมูล

  • เตรียมพร้อมรับมือเมื่อเกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล: จัดทำแผนรับมือและกระบวนการแจ้งเตือนเจ้าของข้อมูลและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) ภายใน 72 ชั่วโมง

บทสรุป: เปลี่ยนภาระให้เป็นความไว้วางใจ

การปฏิบัติตาม PDPA อาจดูเหมือนเป็นภาระ แต่แท้จริงแล้วคือโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าของคุณ การแสดงให้เห็นว่าธุรกิจของคุณใส่ใจและปกป้องข้อมูลของพวกเขาอย่างจริงจัง คือวิธีการสร้าง "ความไว้วางใจ" ที่ดีที่สุดในระยะยาว

Walla ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณรวบรวมข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและสอดคล้องกับข้อกำหนดของ PDPA เราจัดการความซับซ้อนทางเทคนิค เพื่อให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าได้อย่างเต็มที่

พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA ได้มีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจและผู้ปฏิบัติงานหลายๆ ท่าน ข้อกำหนดต่างๆ ก็ยังคงดูซับซ้อนและน่าสับสนอยู่

"ธุรกิจของเราเข้าข่ายหรือไม่" "ต้องขอความยินยอมแบบไหน" "ถ้าไม่ทำตามจะเกิดอะไรขึ้น"

ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป! Walla ได้จัดทำคู่มือฉบับสรุปนี้ขึ้นมา เพื่อไขข้อข้องใจและอธิบายหลักการสำคัญของ PDPA ที่ทุกธุรกิจในประเทศไทยจำเป็นต้องรู้และนำไปปฏิบัติ เพื่อดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นใจและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า

1. PDPA คืออะไร? ทำไมจึงสำคัญ?

PDPA คือกฎหมายที่กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล ในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูล (เช่น ลูกค้า, พนักงาน) กฎหมายนี้ไม่ได้มีขึ้นเพื่อเป็นอุปสรรค แต่เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจในยุคดิจิทัล

2. ธุรกิจของคุณเข้าข่ายที่ต้องปฏิบัติตาม PDPA หรือไม่?

คำตอบคือ "ใช่" หากธุรกิจของคุณมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้:

  • มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของลูกค้า, พนักงาน, หรือบุคคลอื่นๆ

  • ธุรกิจของคุณตั้งอยู่ในประเทศไทย

  • ธุรกิจของคุณตั้งอยู่นอกประเทศไทย แต่มีการเสนอขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าในประเทศไทย หรือมีการเฝ้าติดตามพฤติกรรมของบุคคลในประเทศไทย (เช่น การใช้คุกกี้บนเว็บไซต์)

3. หลักการสำคัญที่ต้องจำให้ขึ้นใจ

  • การขอความยินยอม (Consent): ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลอย่างชัดแจ้งและแยกตามวัตถุประสงค์ก่อนหรือขณะเก็บรวบรวมข้อมูล

  • การแจ้งวัตถุประสงค์ (Purpose Limitation): ต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบว่าจะนำข้อมูลไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร และต้องใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้เท่านั้น

  • การเก็บข้อมูลเท่าที่จำเป็น (Data Minimization): ต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้

  • ความถูกต้องของข้อมูล (Accuracy): ต้องดูแลรักษาข้อมูลให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ

  • ความปลอดภัยของข้อมูล (Security): ต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึงหรือการรั่วไหลของข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต

4. สิ่งที่ธุรกิจของคุณต้องทำ (เช็คลิสต์เบื้องต้น)

  • จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice/Policy): จัดทำเอกสารที่แจ้งรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ชัดเจน

  • สร้างกระบวนการขอความยินยอม: ออกแบบฟอร์มหรือช่องทางในการขอความยินยอมจากลูกค้าให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

  • แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO): หากธุรกิจของคุณมีการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากหรือข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน อาจจำเป็นต้องแต่งตั้ง DPO

  • จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัย: ใช้มาตรการทางเทคนิค (เช่น การเข้ารหัส) และทางองค์กร (เช่น การกำหนดสิทธิ์การเข้าถึง) เพื่อปกป้องข้อมูล

  • เตรียมพร้อมรับมือเมื่อเกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล: จัดทำแผนรับมือและกระบวนการแจ้งเตือนเจ้าของข้อมูลและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) ภายใน 72 ชั่วโมง

บทสรุป: เปลี่ยนภาระให้เป็นความไว้วางใจ

การปฏิบัติตาม PDPA อาจดูเหมือนเป็นภาระ แต่แท้จริงแล้วคือโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าของคุณ การแสดงให้เห็นว่าธุรกิจของคุณใส่ใจและปกป้องข้อมูลของพวกเขาอย่างจริงจัง คือวิธีการสร้าง "ความไว้วางใจ" ที่ดีที่สุดในระยะยาว

Walla ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณรวบรวมข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและสอดคล้องกับข้อกำหนดของ PDPA เราจัดการความซับซ้อนทางเทคนิค เพื่อให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าได้อย่างเต็มที่

Continue Reading

당신이 그토록 찾던 폼, 무료로 사용하세요.

바로 여기, 왈라에서.

당신이 그토록 찾던 폼, 무료로 사용하세요.

바로 여기, 왈라에서.

당신이 그토록 찾던 폼, 무료로 사용하세요.

바로 여기, 왈라에서.