

พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA ได้มีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจและผู้ปฏิบัติงานหลายๆ ท่าน ข้อกำหนดต่างๆ ก็ยังคงดูซับซ้อนและน่าสับสนอยู่
"ธุรกิจของเราเข้าข่ายหรือไม่" "ต้องขอความยินยอมแบบไหน" "ถ้าไม่ทำตามจะเกิดอะไรขึ้น"
ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป! Walla ได้จัดทำคู่มือฉบับสรุปนี้ขึ้นมา เพื่อไขข้อข้องใจและอธิบายหลักการสำคัญของ PDPA ที่ทุกธุรกิจในประเทศไทยจำเป็นต้องรู้และนำไปปฏิบัติ เพื่อดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นใจและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า
1. PDPA คืออะไร? ทำไมจึงสำคัญ?
PDPA คือกฎหมายที่กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล ในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูล (เช่น ลูกค้า, พนักงาน) กฎหมายนี้ไม่ได้มีขึ้นเพื่อเป็นอุปสรรค แต่เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจในยุคดิจิทัล
2. ธุรกิจของคุณเข้าข่ายที่ต้องปฏิบัติตาม PDPA หรือไม่?
คำตอบคือ "ใช่" หากธุรกิจของคุณมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้:
มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของลูกค้า, พนักงาน, หรือบุคคลอื่นๆ
ธุรกิจของคุณตั้งอยู่ในประเทศไทย
ธุรกิจของคุณตั้งอยู่นอกประเทศไทย แต่มีการเสนอขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าในประเทศไทย หรือมีการเฝ้าติดตามพฤติกรรมของบุคคลในประเทศไทย (เช่น การใช้คุกกี้บนเว็บไซต์)
3. หลักการสำคัญที่ต้องจำให้ขึ้นใจ
การขอความยินยอม (Consent): ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลอย่างชัดแจ้งและแยกตามวัตถุประสงค์ก่อนหรือขณะเก็บรวบรวมข้อมูล
การแจ้งวัตถุประสงค์ (Purpose Limitation): ต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบว่าจะนำข้อมูลไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร และต้องใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้เท่านั้น
การเก็บข้อมูลเท่าที่จำเป็น (Data Minimization): ต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้
ความถูกต้องของข้อมูล (Accuracy): ต้องดูแลรักษาข้อมูลให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
ความปลอดภัยของข้อมูล (Security): ต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึงหรือการรั่วไหลของข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
4. สิ่งที่ธุรกิจของคุณต้องทำ (เช็คลิสต์เบื้องต้น)
จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice/Policy): จัดทำเอกสารที่แจ้งรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ชัดเจน
สร้างกระบวนการขอความยินยอม: ออกแบบฟอร์มหรือช่องทางในการขอความยินยอมจากลูกค้าให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO): หากธุรกิจของคุณมีการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากหรือข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน อาจจำเป็นต้องแต่งตั้ง DPO
จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัย: ใช้มาตรการทางเทคนิค (เช่น การเข้ารหัส) และทางองค์กร (เช่น การกำหนดสิทธิ์การเข้าถึง) เพื่อปกป้องข้อมูล
เตรียมพร้อมรับมือเมื่อเกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล: จัดทำแผนรับมือและกระบวนการแจ้งเตือนเจ้าของข้อมูลและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) ภายใน 72 ชั่วโมง
บทสรุป: เปลี่ยนภาระให้เป็นความไว้วางใจ
การปฏิบัติตาม PDPA อาจดูเหมือนเป็นภาระ แต่แท้จริงแล้วคือโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าของคุณ การแสดงให้เห็นว่าธุรกิจของคุณใส่ใจและปกป้องข้อมูลของพวกเขาอย่างจริงจัง คือวิธีการสร้าง "ความไว้วางใจ" ที่ดีที่สุดในระยะยาว
Walla ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณรวบรวมข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและสอดคล้องกับข้อกำหนดของ PDPA เราจัดการความซับซ้อนทางเทคนิค เพื่อให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าได้อย่างเต็มที่
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA ได้มีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจและผู้ปฏิบัติงานหลายๆ ท่าน ข้อกำหนดต่างๆ ก็ยังคงดูซับซ้อนและน่าสับสนอยู่
"ธุรกิจของเราเข้าข่ายหรือไม่" "ต้องขอความยินยอมแบบไหน" "ถ้าไม่ทำตามจะเกิดอะไรขึ้น"
ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป! Walla ได้จัดทำคู่มือฉบับสรุปนี้ขึ้นมา เพื่อไขข้อข้องใจและอธิบายหลักการสำคัญของ PDPA ที่ทุกธุรกิจในประเทศไทยจำเป็นต้องรู้และนำไปปฏิบัติ เพื่อดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นใจและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า
1. PDPA คืออะไร? ทำไมจึงสำคัญ?
PDPA คือกฎหมายที่กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล ในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูล (เช่น ลูกค้า, พนักงาน) กฎหมายนี้ไม่ได้มีขึ้นเพื่อเป็นอุปสรรค แต่เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจในยุคดิจิทัล
2. ธุรกิจของคุณเข้าข่ายที่ต้องปฏิบัติตาม PDPA หรือไม่?
คำตอบคือ "ใช่" หากธุรกิจของคุณมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้:
มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของลูกค้า, พนักงาน, หรือบุคคลอื่นๆ
ธุรกิจของคุณตั้งอยู่ในประเทศไทย
ธุรกิจของคุณตั้งอยู่นอกประเทศไทย แต่มีการเสนอขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าในประเทศไทย หรือมีการเฝ้าติดตามพฤติกรรมของบุคคลในประเทศไทย (เช่น การใช้คุกกี้บนเว็บไซต์)
3. หลักการสำคัญที่ต้องจำให้ขึ้นใจ
การขอความยินยอม (Consent): ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลอย่างชัดแจ้งและแยกตามวัตถุประสงค์ก่อนหรือขณะเก็บรวบรวมข้อมูล
การแจ้งวัตถุประสงค์ (Purpose Limitation): ต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบว่าจะนำข้อมูลไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร และต้องใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้เท่านั้น
การเก็บข้อมูลเท่าที่จำเป็น (Data Minimization): ต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้
ความถูกต้องของข้อมูล (Accuracy): ต้องดูแลรักษาข้อมูลให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
ความปลอดภัยของข้อมูล (Security): ต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึงหรือการรั่วไหลของข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
4. สิ่งที่ธุรกิจของคุณต้องทำ (เช็คลิสต์เบื้องต้น)
จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice/Policy): จัดทำเอกสารที่แจ้งรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ชัดเจน
สร้างกระบวนการขอความยินยอม: ออกแบบฟอร์มหรือช่องทางในการขอความยินยอมจากลูกค้าให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO): หากธุรกิจของคุณมีการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากหรือข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน อาจจำเป็นต้องแต่งตั้ง DPO
จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัย: ใช้มาตรการทางเทคนิค (เช่น การเข้ารหัส) และทางองค์กร (เช่น การกำหนดสิทธิ์การเข้าถึง) เพื่อปกป้องข้อมูล
เตรียมพร้อมรับมือเมื่อเกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล: จัดทำแผนรับมือและกระบวนการแจ้งเตือนเจ้าของข้อมูลและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) ภายใน 72 ชั่วโมง
บทสรุป: เปลี่ยนภาระให้เป็นความไว้วางใจ
การปฏิบัติตาม PDPA อาจดูเหมือนเป็นภาระ แต่แท้จริงแล้วคือโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าของคุณ การแสดงให้เห็นว่าธุรกิจของคุณใส่ใจและปกป้องข้อมูลของพวกเขาอย่างจริงจัง คือวิธีการสร้าง "ความไว้วางใจ" ที่ดีที่สุดในระยะยาว
Walla ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณรวบรวมข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและสอดคล้องกับข้อกำหนดของ PDPA เราจัดการความซับซ้อนทางเทคนิค เพื่อให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าได้อย่างเต็มที่
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA ได้มีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจและผู้ปฏิบัติงานหลายๆ ท่าน ข้อกำหนดต่างๆ ก็ยังคงดูซับซ้อนและน่าสับสนอยู่
"ธุรกิจของเราเข้าข่ายหรือไม่" "ต้องขอความยินยอมแบบไหน" "ถ้าไม่ทำตามจะเกิดอะไรขึ้น"
ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป! Walla ได้จัดทำคู่มือฉบับสรุปนี้ขึ้นมา เพื่อไขข้อข้องใจและอธิบายหลักการสำคัญของ PDPA ที่ทุกธุรกิจในประเทศไทยจำเป็นต้องรู้และนำไปปฏิบัติ เพื่อดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นใจและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า
1. PDPA คืออะไร? ทำไมจึงสำคัญ?
PDPA คือกฎหมายที่กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล ในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูล (เช่น ลูกค้า, พนักงาน) กฎหมายนี้ไม่ได้มีขึ้นเพื่อเป็นอุปสรรค แต่เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจในยุคดิจิทัล
2. ธุรกิจของคุณเข้าข่ายที่ต้องปฏิบัติตาม PDPA หรือไม่?
คำตอบคือ "ใช่" หากธุรกิจของคุณมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้:
มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของลูกค้า, พนักงาน, หรือบุคคลอื่นๆ
ธุรกิจของคุณตั้งอยู่ในประเทศไทย
ธุรกิจของคุณตั้งอยู่นอกประเทศไทย แต่มีการเสนอขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าในประเทศไทย หรือมีการเฝ้าติดตามพฤติกรรมของบุคคลในประเทศไทย (เช่น การใช้คุกกี้บนเว็บไซต์)
3. หลักการสำคัญที่ต้องจำให้ขึ้นใจ
การขอความยินยอม (Consent): ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลอย่างชัดแจ้งและแยกตามวัตถุประสงค์ก่อนหรือขณะเก็บรวบรวมข้อมูล
การแจ้งวัตถุประสงค์ (Purpose Limitation): ต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบว่าจะนำข้อมูลไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร และต้องใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้เท่านั้น
การเก็บข้อมูลเท่าที่จำเป็น (Data Minimization): ต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้
ความถูกต้องของข้อมูล (Accuracy): ต้องดูแลรักษาข้อมูลให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
ความปลอดภัยของข้อมูล (Security): ต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึงหรือการรั่วไหลของข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
4. สิ่งที่ธุรกิจของคุณต้องทำ (เช็คลิสต์เบื้องต้น)
จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice/Policy): จัดทำเอกสารที่แจ้งรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ชัดเจน
สร้างกระบวนการขอความยินยอม: ออกแบบฟอร์มหรือช่องทางในการขอความยินยอมจากลูกค้าให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO): หากธุรกิจของคุณมีการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากหรือข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน อาจจำเป็นต้องแต่งตั้ง DPO
จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัย: ใช้มาตรการทางเทคนิค (เช่น การเข้ารหัส) และทางองค์กร (เช่น การกำหนดสิทธิ์การเข้าถึง) เพื่อปกป้องข้อมูล
เตรียมพร้อมรับมือเมื่อเกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล: จัดทำแผนรับมือและกระบวนการแจ้งเตือนเจ้าของข้อมูลและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) ภายใน 72 ชั่วโมง
บทสรุป: เปลี่ยนภาระให้เป็นความไว้วางใจ
การปฏิบัติตาม PDPA อาจดูเหมือนเป็นภาระ แต่แท้จริงแล้วคือโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าของคุณ การแสดงให้เห็นว่าธุรกิจของคุณใส่ใจและปกป้องข้อมูลของพวกเขาอย่างจริงจัง คือวิธีการสร้าง "ความไว้วางใจ" ที่ดีที่สุดในระยะยาว
Walla ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณรวบรวมข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและสอดคล้องกับข้อกำหนดของ PDPA เราจัดการความซับซ้อนทางเทคนิค เพื่อให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าได้อย่างเต็มที่
Continue Reading
